ควรรับลูกหมามาตั้งแต่อายุเท่าไร  
2 เดือน หรือประมาณ 60 วัน คือช่วงอายุที่เหมาะสมในการรับลูกสุนัขตัวใหม่เข้ามาเลี้ยง แนะนำว่าควรอายุอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป ไม่ควรรับมาเร็วเกิน เพราะยังเป็นช่วงที่ลูกสุนัขมีภูมิคุ้มกันต่ำ และยังไม่หย่านม  

 
วัคซีนควรฉีดให้ครบตั้งแต่เด็ก   
วัคซีนแบ่งเป็น 2 กลุ่มง่าย ๆ คือ วัคซีนหลัก (Core vaccine) ที่สุนัขทุกตัวควรได้รับ และวัคซีนทางเลือก (Non-core vaccine) สุนัขที่มีความเสี่ยงควรได้รับ สำหรับลูกสุนัขสามารถเริ่มทำวัคซีนตั้งแต่อายุ 6-8 สัปดาห์ และควรพาไปกระตุ้นซ้ำเป็นประจำทุกปีตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ 

วัคซีนหลัก (Core vaccine) ได้แก่ 

• วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบพาร์โวไวรัส (CPV-2) 
• วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ (CAV-2) 
• วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข (CDV) 
• วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)  
• วัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู (Leptospirosis) 

วัคซีนทางเลือก (Non-core vaccine) เช่น 

• วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (Bordetella bronchiseptica) 
• วัคซีนป้องกันพาราอินฟลูเอนซ่าไวรัส (Parainfluenza Virus, CPiV ) 

• วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สุนัข (Canine Influenza Virus) 

  

   

  หลังรับลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านแล้ว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสุขภาพร่างกาย เนื่องจากวัยเด็กเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น มีความซุกซนในตัวทุกสายพันธุ์ เรามักจะได้เห็นนิสัยจอมกัดแทะมากที่สุดในวัยนี้ ซึ่งอาจป่วยจากปรสิตที่พบได้บ่อยในลูกสุนัขได้เช่นกัน  
  
  ดังนั้นเราควรป้องกันพยาธิ และปรสิตให้ครบทั้ง 13 ชนิด ได้แก่ เห็บ หมัด ไรหู ไรขี้เรื้อนแห้ง ไรขี้เรื้อนเปียก พยาธิหนอนหัวใจ พยาธิปากขอ พยาธิหลอดอาหาร พยาธิในปอด พยาธิแส้ม้า พยาธิไส้เดือน พยาธินัยน์ตาและพยาธิตัวตืดจากหมัด เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกสุนัขจะได้รับเชื้อตอนไหน อีกทั้งยังมีพยาธิที่ติดจากแม่สู่ลูก และติดสู่คนได้ด้วย  
  
  น้ำหนักเปลี่ยนเร็วยิ่งต้องใส่ใจให้ครบเรื่องปรสิต  
  
  วัยเด็กโดยเฉพาะในสุนัขสายพันธุ์ใหญ่มักเกิดการเปลี่ยนผ่านน้ำหนักตัวที่รวดเร็วมาก ดังนั้นการป้องกันปรสิตให้ลูกสุนัขควรทำเป็นประจำทุกเดือนรวมถึงช่วงวัยอื่นด้วยเช่นกัน เพราะการป้องกันที่ได้ประสิทธิภาพควรอ้างอิงจากน้ำหนักตัวของสุนัขเพื่อให้สัตวแพทย์แนะนำโปรแกรมป้องกันปรสิตได้อย่างครบถ้วน  
  
  การป้องกันปรสิตสามารถเริ่มป้องกันได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน และในลูกสุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีน้ำหนัก 1.35 กิโลกรัมเป็นต้นไป ก็สามารถพามาเข้ารับโปรแกรมป้องกันปรสิตกับ Spectra For Dog ได้เช่นกัน  
  
  ช่วงปรับตัว ระวังท้องเสีย  
   
  เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกสุนัขต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับบ้านใหม่ และสมาชิกใหม่ในบ้าน การเปลี่ยนสถานที่อาจส่งผลให้เกิดความเครียดได้ง่าย ควรเฝ้าระวัง และคอยสังเกตอาการ ท่าทางของลูกสุนัข นอกจากนี้การสำรวจบ้านใหม่ก็เป็นหนึ่งในอาการท้องเสียของลูกสุนัขได้เช่นกัน เพราะนิสัยชอบกัดแทะ การแสดงความเป็นเจ้าของอาจทำให้ลูกสุนัขเล่นซน โดยไม่สนใจว่าพื้นที่ที่ไปจะสะอาดหรือสกปรก ซึ่งเสี่ยงต่อการติดพยาธิมาโดยไม่รู้ตัว เช่น พยาธิในปอด พยาธิแส้ม้า พยาธิไส้เดือน เห็บ หมัด เป็นต้น   
   
  ดูแลลูกสุนัขตัวใหม่ง่าย ๆ แข็งแรงแต่เด็ก  
   
  การดูแลลูกสุนัขไม่ใช่เรื่องยาก เพียงทำความเข้าใจพฤติกรรม และธรรมชาติของสุนัขในแต่ละสายพันธุ์ หากเป็นสายพันธุ์ที่มีพลังงานเหลือล้น ก็ควรมีพื้นที่ให้วิ่งออกกำลังกาย และให้เวลากับสุนัข หรือหากเป็นสายพันธุ์รักสงบ ไม่เห่า อยู่นิ่ง ๆ ก็ควรดูแลความสะอาดภายในบ้าน และพื้นที่ที่สุนัขชอบไปนอนเป็นประจำทุกวัน  
  
  เพียงเริ่มจากการปกป้องให้ครบทั้งในเรื่องการกิน ที่อยู่ พยาธิ และปรสิตเป็นประจำทุกเดือน เท่านั้นลูกสุนัขของเราก็จะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงแต่เด็ก ห่างไกลโรค  
   
  
  ปกป้องให้ครบกว่าทุกการป้องกันจากเห็บ หมัด ไร พยาธิหนอนหัวใจ และพยาธิร้ายอื่น ๆ เป็นประจำทุกเดือนกับโปรแกรมป้องกันปรสิต Spectra For Dog  รับคำปรึกษาจากคุณหมอ เพื่อรับโปรแกรมป้องกันปรสิตที่ครบกว่าทุกการป้องกันที่สัตวแพทย์แนะนำ จากโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน