Skip to main content

พยาธิหลอดอาหาร (Esophageal worm)

Spectra Gradient Banner
โปรแกรม SpectraForDog
พยาธิหลอดอาหาร
Esophageal worm

พยาธิหลอดอาหาร (Esophageal worm)

แหล่งอาศัย : ตัวพยาธิอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของสัตว์ตระกูลสุนัข เช่น น้องหมา หมาป่า หมาจิ้งจอก รวมถึงแมว

พบได้: สามารถพบพยาธิหลอดอาหารตัวเต็มวัยได้ที่ผนังหลอดอาหารสุนัข กระเพาะอาหารไปจนถึงหลอดเลือดแดงใหญ่

ติดสุนัขโดย : น้องหมาที่เผลอกินแมลงปีกแข็งที่มีตัวอ่อนพยาธิหรือกินสัตว์เล็ก เช่น นก หนู กระต่าย กิ้งก่า ที่ได้รับพยาธิมาจากการกินแมลงปีกแข็งที่มีตัวอ่อน

ผลร้ายกับสุนัข : ทำให้ลูกสุนัขกลืนอาหารลําบาก อาเจียน หอบไม่มีแรง พบก้อนมะเร็ง ซึ่งอาจแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นได้ หรือบางกรณีอาจหลอดเลือดแดงใหญ่แตกไปจนถึงเสียชีวิตได้

 

ข้อมูลทั่วไป

พยาธิหลอดอาหาร ที่พบในน้องหมา มีชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า (Spirocerca lupi) มีความยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร โดยปกติตัวเมียจะยาวกว่าตัวผู้ ลักษณะเป็นตัวสีแดงเข้มคล้ายสีเลือด ขดเป็นสปริงอยู่ในถุงตามผนังหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร ความน่ากลัวคือ พยาธิเหล่านี้จะสร้างพังผืดหุ้มตัวไปอาศัยอยู่ในหลอดอาหาร และบริเวณใกล้เคียง เช่น กระเพาะอาหาร และหลอดเลือดแดงใหญ่ จึงส่งผลกระทบต่อร่างกายได้คล้ายกับการเป็นก้อนเนื้องอก ทำให้สุนัขกินอาหารลำบาก มีอาการสำรอก

พยาธิหลอดอาหารสามารถพบได้ในประเทศไทย โดยกลุ่มน้องสุนัขที่มีความเสี่ยงคือน้อง ๆ ที่มีนิสัยชอบกินสิ่งแปลกปลอม ชอบจับสัตว์ขนาดเล็กกินเป็นอาหาร รวมถึงน้องหมาที่ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ป้องกันพยาธิอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง

Spiocerca lupi cycle

แหล่งอาศัย : ตัวพยาธิอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของสัตว์ตระกูลสุนัข เช่น น้องหมา หมาป่า หมาจิ้งจอก รวมถึงแมว

พบได้: สามารถพบพยาธิหลอดอาหารตัวเต็มวัยได้ที่ผนังหลอดอาหารสุนัข กระเพาะอาหารไปจนถึงหลอดเลือดแดงใหญ่

ติดสุนัขโดย : น้องหมาที่เผลอกินแมลงปีกแข็งที่มีตัวอ่อนพยาธิหรือกินสัตว์เล็ก เช่น นก หนู กระต่าย กิ้งก่า ที่ได้รับพยาธิมาจากการกินแมลงปีกแข็งที่มีตัวอ่อน

ผลร้ายกับสุนัข : ทำให้ลูกสุนัขกลืนอาหารลําบาก อาเจียน หอบไม่มีแรง พบก้อนมะเร็ง ซึ่งอาจแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นได้ หรือบางกรณีอาจหลอดเลือดแดงใหญ่แตกไปจนถึงเสียชีวิตได้

 

ข้อมูลทั่วไป

พยาธิหลอดอาหาร ที่พบในน้องหมา มีชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า (Spirocerca lupi) มีความยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร โดยปกติตัวเมียจะยาวกว่าตัวผู้ ลักษณะเป็นตัวสีแดงเข้มคล้ายสีเลือด ขดเป็นสปริงอยู่ในถุงตามผนังหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร ความน่ากลัวคือ พยาธิเหล่านี้จะสร้างพังผืดหุ้มตัวไปอาศัยอยู่ในหลอดอาหาร และบริเวณใกล้เคียง เช่น กระเพาะอาหาร และหลอดเลือดแดงใหญ่ จึงส่งผลกระทบต่อร่างกายได้คล้ายกับการเป็นก้อนเนื้องอก ทำให้สุนัขกินอาหารลำบาก มีอาการสำรอก

พยาธิหลอดอาหารสามารถพบได้ในประเทศไทย โดยกลุ่มน้องสุนัขที่มีความเสี่ยงคือน้อง ๆ ที่มีนิสัยชอบกินสิ่งแปลกปลอม ชอบจับสัตว์ขนาดเล็กกินเป็นอาหาร รวมถึงน้องหมาที่ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ป้องกันพยาธิอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง