Skip to main content

น้องหมาชอบกินนก คาบหนู อันตรายมั้ย?

Spectra Gradient Banner
เคล็ดลับการเลี้ยงน้องหมา

น้องหมาชอบกินนก คาบหนู อันตรายมั้ย?

Spectra_pic Cover Long Form หมาชอบ กินนก คาบหนู_1980x662 1.png
Spectra_pic Cover Long Form หมาชอบ กินนก คาบหนู_360x872 1.png

ชื่อว่าเหล่าทาสต้องเคยได้ยินหรือเห็นพฤติกรรมเกี่ยวกับน้องหมาที่ชอบคาบนกหรือหนู จนไปถึง “หมากินนก” หรือ “หมากินหนู” เข้าไป พฤติกรรมเหล่านี้อาจดูน่ารักหรือสร้างเสียงหัวเราะสำหรับบางคน แต่ความจริงแล้วแฝงไว้ด้วยอันตรายที่หลายคนไม่รู้ โดยเฉพาะเรื่องของ “พยาธิหลอดอาหาร” ซึ่งเป็นภัยเงียบที่มาพร้อมกับสัตว์พาหะเล็ก ๆ รอบตัวเรา 

 

พยาธิหลอดอาหารคืออะไร? 

พยาธิหลอดอาหาร หรือ Spirocerca lupi เป็นพยาธิตัวกลมที่พบได้บ่อยในสุนัข มีวงจรชีวิตที่ซับซ้อน โดยเริ่มจากการที่สัตว์เล็ก เช่น นก หนู กิ้งก่า หรือจิ้งจก ไปกินด้วงที่มีพยาธิตัวอ่อน จากนั้นเมื่อน้องหมาเผลอกินสัตว์เหล่านี้เข้าไป พยาธิจะเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร และเคลื่อนไปฝังตัวในหลอดอาหาร และในบางกรณี พยาธิจะสร้างก้อนเนื้อหรือซีสต์ขึ้นในหลอดอาหาร ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

 

อาการที่ควรเฝ้าระวังและสังเกตหากหมากินนกหรือหมากินหนู  

1. ไอแห้งเรื้อรัง 

น้องหมามีอาการไอบ่อย ๆ เหมือนมีอะไรติดคอ หรือไอแบบไม่มีเสมหะ อาจไอหลังจากกินอาหารหรือเวลาตื่นนอนตอนเช้า อาการนี้เกิดจากพยาธิที่ฝังตัวในหลอดอาหารแล้วไปรบกวนระบบทางเดินหายใจ 

 

2. อาเจียนหรือสำลักหลังจากกินอาหาร 

หลังจากกินอาหารไม่นาน น้องหมาอาจอาเจียนออกมาหรือมีอาการสำลักคล้ายขย้อน โดยเป็นชิ้นอาหารที่ยังไม่ผ่านลงไปในกระเพาะ เนื่องจากหลอดอาหารถูกพยาธิก่อก้อนอุดตัน หรือมีการอักเสบเรื้อรัง 

 

3. กลืนอาหารลำบาก 

สังเกตว่าน้องหมาเคี้ยวนานกว่าปกติ หรือกลืนแล้วทำหน้าเหมือนไม่สบาย บางตัวอาจกัดแล้วปล่อย หรือเลียปากบ่อย ๆ เพราะรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายในลำคอ ซึ่งมักเป็นผลจากก้อนเนื้อหรือการอักเสบในหลอดอาหาร 

4. เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงผิดปกติ 

เมื่อรู้สึกไม่สบายเวลาทานอาหาร น้องหมามักจะเริ่มเบื่ออาหาร กินน้อยลง หรือปฏิเสธอาหารที่เคยชอบ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ แม้จะไม่ได้มีโรคภายนอกให้เห็นชัดเจน 

 

5. อ่อนเพลีย ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม 

พอร่างกายเริ่มสะสมความอ่อนแอจากการกินได้น้อย ระบบภายในทำงานหนัก น้องหมาจะซึม ไม่อยากเล่น หรือนอนเยอะกว่าปกติ เป็นอาการทั่วไปที่แสดงว่าสุขภาพภายในเริ่มมีปัญหา 

 

การป้องกันและดูแล 

ทางที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้น้องหมาไปล่าหรือเล่นกับสัตว์พาหะ เช่น หนู นก หรือจิ้งจก และหมั่นฝึกคำสั่งพื้นฐาน เช่น “ปล่อย” หรือ “ห้าม” เพื่อหยุดพฤติกรรมกัดหรือคาบสิ่งแปลกปลอม พาน้องไปตรวจสุขภาพประจำปี และปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องการถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันปรสิตที่ครบครัน ครอบคลุมทั้งภายนอกและภายใน ทั้งพยาธิหลอดอาหาร และพยาธิภายในอื่นๆ เช่น พยาธิหนอนหัวใจ พยาธิปากขอ และพยาธิแส้ม้า ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้น้องหมาปลอดภัย และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ด้วยนะ เช่น พยาธิหนอนหัวใจ พยาธิปากขอ และพยาธิแส้ม้า ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้น้องหมาปลอดภัย และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ด้วยนะ 

 

พฤติกรรม “หมากินหนู” หรือ “หมากินนก” อาจดูเป็นเรื่องสัญชาตญาณธรรมชาติ แต่อาจนำพาภัยเงียบอย่างพยาธิหลอดอาหารเข้าสู่ร่างกายน้องหมาได้โดยไม่รู้ตัว ปกป้องน้องให้ครบกว่าทุกการป้องกัน ทั้งเห็บ หมัด ไร พยาธิหนอนหัวใจ และพยาธิร้ายอื่น ๆ เพราะสุขภาพที่ดีของน้องหมาเริ่มต้นจากความใส่ใจของเรา